Pk.
12 มี.ค. 2555
9 ก.พ. 2555
iPad 3
iPad 2 (ซ้าย) และ iPad 3 (ขวา)
[9-กุมภาพันธ์-2555] เริ่มมีภาพส่วนประกอบอื่นๆ ออกมาให้เห็นกันแล้ว กับข่าวคราวของ ไอแพด 3 (iPad 3) ในวันนี้ เว็บไซต์ RepairLabs ได้เผยภาพ กรอบด้านหลังของ ไอแพด 3 (iPad 3) ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ ไอแพด 2 (iPad 2) แล้ว พบว่า แทบจะไม่แตกต่างกันเลยครับ ทั้งในเรื่องของการออกแบบ และความหนาของตัวเครื่อง อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวดังกล่าว ได้เอ่ยถึงจุดที่แตกต่างกันเล็กน้อย ระหว่าง ไอแพด 2 (iPad 2) กับ ไอแพด 3 (iPad 3) จากภาพด้านบน ดังนี้ครับ
จุด A : ส่วนของแผงวงจร มีรูปร่างที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจจะมีการปรับชิ้นส่วนบางอย่าง หรือเพิ่มพื้นที่สำหรับใส่ชิ้นส่วนบางอย่างเข้าไป แต่รายงานข่าวไม่ได้ระบุว่า ชิ้นส่วนที่อาจจะถูกเพิ่มเข้ามา คืออะไร
จุด B : ส่วนสำหรับแบตเตอรี่ บน ไอแพด 2 (iPad 2) นั้น มีขนาดที่กว้างกว่า ไอแพด 3 (iPad 3) ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ไอแพด 3 (iPad 3) น่าจะมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น (ตามข่าวลือ)
จุด C : กล้องด้านหลัง มีตำแหน่งที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ซึ่งดูจากรูปด้านบน คงเห็นความแตกต่างได้ไม่ชัดเจนนัก
จุด D : ส่วนของ mount สำหรับหน้าจอ LCD นั้น มีรูปร่างที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ ไอแพด 3 (iPad 3) จะใช้หน้าจอที่ความละเอียดสูงขึ้น
นอกจากนี้ เว็บไซต์ Apple.pro ยังได้เผยภาพ กรอบด้านหลังของ ไอแพด 3 (iPad 3) เช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตำแหน่งของกล้องด้านหลัง มีการปรับตำแหน่งเล็กน้อย จนเกือบจะชิดขอบ ส่วนดีไซน์ก็ยังคงคล้ายคลึงกับ ไอแพด 2 (iPad 2) ครับ อย่างไรก็ดี ภาพดังกล่าว ไม่ได้มีการถ่ายเปรียบเทียบความหนาระหว่าง ไอแพด 2 (iPad 2) และ ไอแพด 3 (iPad 3) จึงไม่สามารถระบุว่าได้ ทั้ง 2 รุ่นนี้ หนา-บาง แตกต่างกันมากน้อยขนาดไหนครับ
ส่วนภาพนี้ ก็คือ ชิ้นส่วนที่จะนำไปประกอบเป็น Smart Cover ซึ่งน่าจะเป็นการเดาได้ว่า ไอแพด 3 (iPad 3) ยังคงใช้ Smart Cover เช่นเดียวกับ ไอแพด 2 (iPad 2) นั่นเอง
ใกล้เปิดตัวเข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับ ไอแพด 3 (iPad 3) ที่ตอนนี้ สเปคของ ไอแพด 3 (iPad 3) เริ่มมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ครับ กับข่าวลือที่ในระยะหลัง หลายๆ เว็บเริ่มเสนอข่าวที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก ไปดูกันครับว่า สเปคของ ไอแพด 3 (iPad 3)จะเป็นอย่างไร และจะแตกต่างจาก ไอแพด 2 (iPad 2) มากน้อยขนาดไหน
ก่อนที่ ไอแพด 2 (iPad 2) จะเปิดตัวนั้น มีหลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ว่า ไอแพด 2 (iPad 2) จะมีจอแสดงผลแบบ Retina Display ซึ่งแน่นอนว่า จุดนี้ ทำเอาหลายคนผิดหวังไปตามๆ กันครับ และส่วนใหญ่ก็คาดหวังว่า ไอแพด 3 (iPad 3) จะมีหน้าจอแบบ Retina Display หรือไม่ อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวจาก Digital Trends และ DigiTimes ได้ระบุว่า บางที Apple อาจจะใช้จอแบบ AMOLED หรือจอที่รองรับ Full HD ที่ แท็บเล็ต ส่วนใหญ่ในตอนนี้ สามารถทำได้
เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีข่าวว่า Apple กำลังทดสอบชิพเซ็ท Apple A6 Processor ซึ่งเป็นชิพเซ็ทระดับ Quad-core Processor จึงมีความเป็นได้ว่า ไอแพด 3 (iPad 3) น่าจะเป็นแท็บเล็ตแบบ Quad-core Processor ครับ
เกี่ยวเนื่องจากหน้าจอแบบ Retina Display จึงทำให้ ไอแพด 3 (iPad 3) น่าจะมีการปรับความละเอียดของหน้าจอให้ละเอียดขึ้นกว่าเดิมครับ โดยจะละเอียดถึง 2048x1536 พิกเซล เลยทีดียว (iPad 2 ความละเอียดอยู่ที่ 1024x768 พิกเซล) พูดง่ายๆ ก็คือว่า ละเอียดเพิ่มขึ้นด้านละ 2 เท่าครับ นอกจากนี้ หน้าจอของ ไอแพด 3 (iPad 3) จะสว่างขึ้นกว่าเดิมด้วย เนื่องจากมีการเพิ่มแผงไฟ LED Light Bar นั่นเอง
คำว่า หนากว่าในทีนี้ จริงๆ แล้ว ไอแพด 3 (iPad 3) จะหนากว่า ไอแพด 2 (iPad 2) เพียงแค่ 0.1 มิลลิเมตรเท่านั้น เพื่อให้รองรับกับวัสดุภายในตัวเครื่อง ที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ ไอแพด 3 (iPad 3) จะมีการปรับส่วนโค้งของตัวเครื่องเล็กน้อยด้วย แต่โดยรวมๆ แล้ว ไอแพด 3 (iPad 3) ก็จะมีรูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงกับ ไอแพด 2 (iPad 2) ครับ
สำหรับสเปคโหดๆ ตามข้อมูลด้านบน แบตเตอรี่ความจุเดิมๆ อาจจะรองรับการใช้งานไม่ไหวครับ (ถ้าหากไหวก็คงได้ไม่กี่ชั่วโมง) ว่ากันว่า ไอแพด 3 (iPad 3) แบตเตอรี่จะมีความจุถึง 14,000mAh เลยทีเดียว เพื่อให้รองรับกับการใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงนั่นเอง
จริงๆ แล้ว การใช้งาน ไอแพด 3 (iPad 3) ในเรื่องของกล้องถ่ายรูปนั้น ถือว่า ถูกนำมาใช้งานน้อยมากๆ เพราะน้อยคนนักที่จะยกกล้องบน iPad มาถ่าย เนื่องจากขนาดที่ใหญ่นั่นเอง แต่ข่าวล่าสุดนั้น ระบุว่า ไอแพด 3 (iPad 3) กล้องด้านหลังจะละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล และคาดว่า น่าจะเป็นกล้องตัวเดียวกับที่ใช้บน iPhone 4S เสียด้วยครับ
ส่วนกล้องด้านหน้า จะเป็นกล้องแบบ HD สำหรับการใช้งาน FaceTime นั่นเอง
ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการพูดถึงราคาของ ไอแพด 3 (iPad 3) นะครับ แต่สำหรับราคา ไอแพด 2 (iPad 2) จะสังเกตได้ว่า ราคาเปิดตัว แทบไม่ต่างจาก iPad 1 เท่าไหร่นัก นั่นคือ เปิดตัวที่ 499$ สำหรับรุ่น Wi-Fi 16GB จึงมีความเป็นไปได้ที่ ไอแพด 3 (iPad 3) จะมีราคาเปิดตัวที่ไม่ต่างจาก iPad 1 และ ไอแพด 2 (iPad 2) ครับ
แหล่งข่าวแรกได้ระบุว่า ไอแพด 3 (iPad 3) จะเปิดตัวหลังจาก ไอแพด 2 (iPad 2) เปิดตัวไปได้ 6 เดือน ถ้าอ้างอิงคำพูดนี้ นั่นหมายความว่า ไอแพด 3 (iPad 3) จะเปิดตัวประมาณเดือนกันยายนครับ ในขณะที่อีกแหล่งข่าวได้อ้างอิงถึง Product Cycle ของทาง Apple ที่ระบุว่า iPad นั้น จะอยู่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็แสดงว่า ไอแพด 3(iPad 3) จะเปิดตัวก็ราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ปี 2012 ครับ
สำหรับข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ยังคงเป็นข่าวลือ และการคาดคะเนอยู่นะครับ ตอนนี้คงยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ ซึ่งข่าวคราวของ ไอแพด 3 (iPad 3) เราจะนำเสนอให้ทุกท่านทราบอย่างแน่นอนครับ
credit:http://www.techmoblog.com/ipad-3/
iPhone 4S
iPhone 4S ได้เปิดตัวไปแล้วในงาน Let's Talk iPhone ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (4 ตุลาคม 2554) โดย iPhone 4S ถือว่าเป็น iPhone รุ่นที่ 5 จาก Apple
- ปี 2007 เปิดตัว iPhone รุ่นแรก : "iPhone Classic" หรือ "iPhone 2G"
- ปี 2008 เปิดตัว iPhone รุ่นที่ 2 : "iPhone 3G"
- ปี 2009 เปิดตัว iPhone รุ่นที่ 3 : "iPhone 3GS"
- ปี 2010 เปิดตัว iPhone รุ่นที่ 4 : "iPhone 4"
- ปี 2011 เปิดตัว iPhone รุ่นที่ 5 : "iPhone 4S"
- ปี 2008 เปิดตัว iPhone รุ่นที่ 2 : "iPhone 3G"
- ปี 2009 เปิดตัว iPhone รุ่นที่ 3 : "iPhone 3GS"
- ปี 2010 เปิดตัว iPhone รุ่นที่ 4 : "iPhone 4"
- ปี 2011 เปิดตัว iPhone รุ่นที่ 5 : "iPhone 4S"
หลายคนอาจจะผิดหวังกับดีไซน์แบบเดิม ทางด้านซอฟต์แวร์ iPhone 4 และ iPhone 4S สามารถอัพเดทเป็น iOS 5 ได้ สิ่งทีแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือ iPhone 4S จะมีระบบสั่งงานด้วยเสียงชื่อ "Siri" ติดมากับเครื่องด้วย ส่วนทางด้านฮาร์ดแวร์นั้นเรามาดูกันว่าทางด้านฮาร์ดแวร์ iPhone 4S และ iPhone 4 นั่นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
iPhone 4S | iPhone 4 |
ความจุ / สี | 16GB, 32GB, 64GB / สีขาว, สีดำ | 8GB / สีขาว, สีดำ |
หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) | Dual-core Apple A5 (ARM Cortex A9 Dual-Core 1Ghz.) | Apple A4 (ARM Cortex A8 1Ghz.) |
หน่วยประมวลผลกราฟฟิค (GPU) | PowerVR SGX 543MP2 | PowerVR SGX 535 |
แรม (RAM) | 512 MB | 512 MB |
หน้าจอ | 3.5 นิ้วแบบ IPS 960 x 640 pixel | 3.5 นิ้วแบบ IPS 960 x 640 pixel |
กล้องด้านหลัง | 8 Megapixel พร้อม Flash และระบบ Autofocus และรูรับแสง F2.4, Realtime noise reduction | 5 Megapixel พร้อม Flash และระบบ Autofocus |
กล่องหน้า | 0.3 Megapixel | 0.3 Megapixel |
ระบบบันทึกวีดีโอ | 1080p Full HD, 30 เฟรมต่อวินาที | 720p HD, 30 เฟรมต่อวินาที |
เครือข่ายที่รองรับ | HSDPA 850/900/1900/2100 GSM 850/900/1800/1900 CDMA 800/1900/2000 1x EV-DO | HSDPA 850/900/1900/2100 GSM 850/900/1800/1900 |
เครือข่ายไร้สาย | 802.11b/g/n | 802.11b/g/n |
Bluetooth | Bluetooth 4.0 | Bluetooth 2.1 |
เซ็นเซอร์ | Accelerometer, Digital compass, Gyroscope | Accelerometer, Digital compass, Gyroscope |
FaceTime | รองรับ | รองรับ |
Siri intelligent assistant | รองรับแบบ Voice-to-text | ไม่รองรับ |
รูปแบบซิม | Micro SIM | Micro SIM |
การใช้งานของแบตเตอรี่ | Up to 8 hours talk time on 3G 14 hours talk time on 2G Up to 6 hours data on 3G Up to 9 hours data on WiFi Up to 40 hours audio Up to 10 hours video | Up to 7 hours talk time on 3G, 14 hours on 2G Up to 10 hours data on WiFi Up to 40 hours audio Up to 10 hours video |
น้ำหนัก | 140 กรัม | 137 กรัม |
ขนาด | 115.2 x 58.6 x 9.3mm | 115.2 x 58.6 x 9.3mm |
พักสายตาจากตารางมาดูรูปภาพบ้างครับ (ภาพจาก Engadget)
iPhone 4S พร้อมอุปกรณ์ภายในกล่อง
iPhone 4S ด้านหน้าเหมือน iPhone 4
iPhone 4S ด้านหลังก็ไม่แตกต่างกันกับ iPhone 4
พอนำมาซ้อนกัน ด้านบนเป็น iPhone 4S และด้านล่างเป็น iPhone 4 ตำแหน่งของปุ่มปิดและเปิดเสียงนั้นต่างกันเล็กน้อย ตอนซื้อเคสใส่นั้นต้องดูดีๆ
ด้านบนตำแหน่งช่องเสียบหูฟังของ iPhone 4S จะต่างกัน iPhone 4 เล็กน้อย และตำแหน่งของเสาอากาศต่างกัน (ขีดสีดำคือเสาอากาศ)
ด้านข้างตำแหน่งของเสาอากาศก็แตกต่างกัน
เมื่อเข้าสู่โหมดถ่ายรูปโดยด้านซ้ายคือ iPhone 4 และด้านขวาคือ iPhone 4S
คุณสมบัติที่แตกต่างกัน
CPU และ GPU เร็วกว่า
iPhone 4S ใช้ CPU แบบ Dual-core และเปลี่ยน GPU (ด้านกราฟฟิค) ใหม่ โดยด้าน CPU นั้นมีผลทดสอบแล้วว่าเร็วกว่าเดิมสองเท่า และทางด้านกราฟฟิคนั้นเร็วกว่าเดิม 7 เท่า สำหรับความแรงเรียกได้ว่าอยู่อันดับต้นๆ ของสมาร์ทโฟนวันนี้เลยทีเดียว
iPhone 4S ใช้ CPU แบบ Dual-core และเปลี่ยน GPU (ด้านกราฟฟิค) ใหม่ โดยด้าน CPU นั้นมีผลทดสอบแล้วว่าเร็วกว่าเดิมสองเท่า และทางด้านกราฟฟิคนั้นเร็วกว่าเดิม 7 เท่า สำหรับความแรงเรียกได้ว่าอยู่อันดับต้นๆ ของสมาร์ทโฟนวันนี้เลยทีเดียว
ความจุแบตเตอรี่ที่มากกว่า
iPhone 4S ใช้แบตเตอรี่ที่สามารถจุพลังงานได้มากกว่า iPhone 4 ทำให้แม้จะมี CPU และ GPU ที่เร็วกว่า แต่ยังสามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 4 เดิม
iPhone 4S ใช้แบตเตอรี่ที่สามารถจุพลังงานได้มากกว่า iPhone 4 ทำให้แม้จะมี CPU และ GPU ที่เร็วกว่า แต่ยังสามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 4 เดิม
World Phone
iPhone 4S นั้นรองรับ CDMA และ GSM ทำให้สามารถใช้ในระบบ CDMA ได้ โดยรองรับ CDMA 800/1900/2000 1x EV-DO รวมถึงระบบ GSM นั้นยังรองรับ HSPA+ (3G) ทุกคลื่นความถี่ โดยรองรับทั้ง 850/900/1900/2100 Mhz.
iPhone 4S นั้นรองรับ CDMA และ GSM ทำให้สามารถใช้ในระบบ CDMA ได้ โดยรองรับ CDMA 800/1900/2000 1x EV-DO รวมถึงระบบ GSM นั้นยังรองรับ HSPA+ (3G) ทุกคลื่นความถี่ โดยรองรับทั้ง 850/900/1900/2100 Mhz.
แก้ปัญหาเรื่องสัญญาณหาย
iPhone 4 นั้นมีปัญหา dead grip คือเมื่อจับในบริเวณส่วนล่างของเครื่องจะทำให้สัญญาณนั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และแอปเปิ้ลเองก็ยอมรับถึงจุดนี้ สำหรับ iPhone 4S นั้นแอปเปิ้ลแก้ปัญหาโดยการเพิ่มเสาสัญญาณ 2 จุด
iPhone 4 นั้นมีปัญหา dead grip คือเมื่อจับในบริเวณส่วนล่างของเครื่องจะทำให้สัญญาณนั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และแอปเปิ้ลเองก็ยอมรับถึงจุดนี้ สำหรับ iPhone 4S นั้นแอปเปิ้ลแก้ปัญหาโดยการเพิ่มเสาสัญญาณ 2 จุด
กล้องดีขึ้น
กล้องของ iPhone 4S มีความละเอียดมากถึง 8 megapixel และมีการปรับปรุง CMOS ที่ใช้รับภาพ และมีค่า F/2.4 ทำให้รับแสงได้เพิ่มขึ้นถึง 73% และถ่ายภาพแรกใช้เวลาเพียง 1.1 วินาที จากนั้นถ่ายภาพต่อไปใช้เวลาเพียง 0.5 วินาที พร้อมมี Infrared Filter ช่วยในการปรับสีให้เที่ยงตรงมากขึ้น ใช้เลนส์ถึง 5 ชิ้นแบบเดียวกับกล้อง DSLR พร้อมปรับปรุง White Balance และเพิ่มระบบ Face Detection
กล้องของ iPhone 4S มีความละเอียดมากถึง 8 megapixel และมีการปรับปรุง CMOS ที่ใช้รับภาพ และมีค่า F/2.4 ทำให้รับแสงได้เพิ่มขึ้นถึง 73% และถ่ายภาพแรกใช้เวลาเพียง 1.1 วินาที จากนั้นถ่ายภาพต่อไปใช้เวลาเพียง 0.5 วินาที พร้อมมี Infrared Filter ช่วยในการปรับสีให้เที่ยงตรงมากขึ้น ใช้เลนส์ถึง 5 ชิ้นแบบเดียวกับกล้อง DSLR พร้อมปรับปรุง White Balance และเพิ่มระบบ Face Detection
ถ่ายวีดีโอดีขึ้น
ทางด้านการถ่ายวีดีโอของ iPhone 4S นั้นสามารถถ่ายแบบ Full HD (1080p) มาพร้อมระบบช่วยลดการสั่นของภาพและระบบ noise reduction แบบ real-time
ทางด้านการถ่ายวีดีโอของ iPhone 4S นั้นสามารถถ่ายแบบ Full HD (1080p) มาพร้อมระบบช่วยลดการสั่นของภาพและระบบ noise reduction แบบ real-time
ราคาของ iPhone 4S ในต่างประเทศ
ราคาพร้อมสัญญาการใช้บริการ 2 ปี ในสหรัฐอเมริกา (เครื่องแบบ lock เฉพาะผู้ใช้บริการนั้น)
iPhone 4S รุ่น 16GB ราคา 199 ดอลล่าร์ (ประมาณ 6,300 บาท)
iPhone 4S รุ่น 32GB ราคา 299 ดอลล่าร์ (ประมาณ 3,900 บาท)
iPhone 4S รุ่น 64GB ราคา 399 ดอลล่าร์ (ประมาณ 12,400 บาท)
ราคาพร้อมสัญญาการใช้บริการ 2 ปี ในสหรัฐอเมริกา (เครื่องแบบ lock เฉพาะผู้ใช้บริการนั้น)
iPhone 4S รุ่น 16GB ราคา 199 ดอลล่าร์ (ประมาณ 6,300 บาท)
iPhone 4S รุ่น 32GB ราคา 299 ดอลล่าร์ (ประมาณ 3,900 บาท)
iPhone 4S รุ่น 64GB ราคา 399 ดอลล่าร์ (ประมาณ 12,400 บาท)
ราคาเครื่องเปล่าแบบไม่ติดสัญญา ในสหรัฐอเมริกา (Official Unlock)
iPhone 4S รุ่น 16GB ราคา 649 ดอลล่าร์ (ประมาณ 20,150 บาท)
iPhone 4S รุ่น 32GB ราคา 749 ดอลล่าร์ (ประมาณ 23,250 บาท)
iPhone 4S รุ่น 64GB ราคา 849 ดอลล่าร์ (ประมาณ 26,350 บาท)
iPhone 4S รุ่น 16GB ราคา 649 ดอลล่าร์ (ประมาณ 20,150 บาท)
iPhone 4S รุ่น 32GB ราคา 749 ดอลล่าร์ (ประมาณ 23,250 บาท)
iPhone 4S รุ่น 64GB ราคา 849 ดอลล่าร์ (ประมาณ 26,350 บาท)
ยอดจอง iPhone 4S แรงมาก
วันแรกของการเปิดตัว iPhone 4S มียอดขายมากถึง 1,000,000 เครื่อง ซึ่งทำสลายสถิติเดิมของ iPhone 4 ที่ 600,000 เครื่อง ซึ่งเป็นยอดขายในวันเดียวที่สูงที่สุดของแอปเปิ้ลตั้งแต่บริษัทก่อตั้งขึ้นมา ในวันแรก Steve Wozniak หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งแอปเปิ้ลร่วมกับ Steve Jobs ก็มาต่อแถวซื้อ iPhone 4 เป็นคนแรกของร้าน Apple Store ที่เขต Los Gatos ในมลรัฐ California
วันแรกของการเปิดตัว iPhone 4S มียอดขายมากถึง 1,000,000 เครื่อง ซึ่งทำสลายสถิติเดิมของ iPhone 4 ที่ 600,000 เครื่อง ซึ่งเป็นยอดขายในวันเดียวที่สูงที่สุดของแอปเปิ้ลตั้งแต่บริษัทก่อตั้งขึ้นมา ในวันแรก Steve Wozniak หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งแอปเปิ้ลร่วมกับ Steve Jobs ก็มาต่อแถวซื้อ iPhone 4 เป็นคนแรกของร้าน Apple Store ที่เขต Los Gatos ในมลรัฐ California
iPhone 4S ขายได้มากกว่า 4 ล้านเครื่องในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว
วันนี้แอปเปิ้ลได้ประกาศยอดขายของ iPhone 4S ในสัปดาห์แรกของการวางจำหน่าย ซึ่งในสัปดาห์แรกนี้ถือว่าวางจำหน่ายเพียง 3 วันเท่านั้นคือวันศุกร์ (วันที่ขายวันแรก), วันเสาร์และวันอาทิตย์ โดย iPhone 4S จำหน่ายได้กว่า 4 ล้านเครื่อง และถือว่ายอดขายสูงกว่าสมัย iPhone 4 มาก ซึ่งประเทศที่วางจำหน่ายในขณะนี้มีเพียง 7 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ ออสเตรเลีย, แคนนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมณี, ญี่ปุ่นและอังกฤษ
สรุป iPhone 4S ที่เปิดตัวใหม่ดีกว่า iPhone 4 โดย CPU ใหม่เร็วขึ้น, กราฟฟิคเร็วขึ้น (สำหรับเกม), กล้องดีขึ้นนิดหน่อย, ถ่ายวีดีโอได้ละเอียดขึ้น และมีความจุ 64GB มาให้เลือก และสิ่งที่สำคัญของ iPhone 4S ที่แตกต่างจาก iPhone 4 คือฟังก์ชั้น Voice Contrl (สั่งงานด้วยเสียง) ชื่อ "Siri"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)